ในยุคที่ “ร้านกาแฟ” ในปัจจุบัน นั้นจะเป็นเหมือนกัน Third Place “ สถานที่พักพิงของผู้เดินทาง” ในทุก ๆ วันของทุกเจเนอเรชั่น หลาย ๆคนที่มีร้านกาแฟเป็นที่ทำงาน นัดคุยงาน นัดคุยเจรจาเรื่องธุรกิจ นัดติววิชา และ เป็นสถานที่สตาร์ทวันใหม่เพื่อเพิ่มความสดชื่นพร้อมเติมพลังในแต่ละวัน ซึ่งเรายอมรับนะคะว่า ทุกวันนี้ร้านกาแฟในประเทศของเรานั้นมีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ร้าน แถมยังมีของเล่นใหม่ ๆ เก๋ ๆ หรือ กาแฟดริป ให้ทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจอีกต่างหากค่ะ นอกจากบรรยากาศในร้านกาแฟแล้วนั้นจะทำให้คุณอยากฝังตัวอยู่ในร้านกาแฟไปนาน ๆ ด้วยรสชาติและความเข้มข้นของกาแฟก็จะมีส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งมาจากความแตกต่างของ “เมล็ดกาแฟ” แต่ละสายพันธุ์ และรวมกับเทคนิคต่าง ๆ ของบาริสต้า ซึ่งการทำความรู้จักกับกาแฟ 4 สายพันธุ์นี้ จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินสนุกกับการคั่วได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ในตัวคุณมากขึ้น
อาราบิก้า (Arabica)
คนที่รักความกลมกล่อม หลงใหลในความหอม และ มีรสชาติที่ละมุนของกาแฟ มักจะตกหลุมรักกาแฟสายพันธุ์ Arabica นี้ เป็นที่ ๆ นิยมปลูกมากที่สุดมาเป็นอันดับ 1 ของโลกก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในร้านกาแฟทั่วโลก และในขณะเดียวกัน อาราบิก้า ก็ปลูกยาก แลกะยังต้องการควบคุมในเรื่องของคุณภาพการปลูกมากเช่นกัน อาราบิก้าให้ปริมาณคาเฟอีน ที่ไม่เข้มข้นมากแต่จะอยู่ในระดับ 1.1 – 1.7 % ทั้งยังมีให้เลือกหลายพันธุ์ เช่น เบอร์บอน , บลูเมาท์เท่นมอกกา ทริปิก้า เคนท์ และ คาทูร่าโคน่า เป็นต้น ซึ่งความแตกต่างก็จะมีกลิ่นหอม และ รสชาติมันที่แตกต่างกันตามถิ่นกำเนิด ส่วน อาราบิก้านั้นก็จะเป็นกาแฟที่รักอากาศเย็นสบาย อยู่ช่วงระหว่าง 15 – 20 องศาเลยทีเดียว จึงเหมาะที่จะปลูกในที่ภูมิประเทศสูงกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล และแน่นอนว่าราคาของกาแฟก็จะแตกต่างกันตามคุณภาพของแต่ละชนิด และ สายพันธุ์อีกด้วยค่ะ
โรบัสต้า (Robusta)
คอกาแฟเข้มข้นตัวจริงที่ไม่ควรพลาด กับกาแฟ “โรบัสต้า” เพราะมีปริมาณความเข้มข้นของคาเฟอีนมากถึง 2 – 4 . 5 % อีกทั้งยังมีบอดี้ ความเข้มข้นที่ให้รสชาติที่ฝาดกว่าอาบิก้าด้วยความเข้มที่สูงกว่าเท่าตัว กาแฟโรบัสต้าจึงทำให้นิยมนำไปผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) และ 3in1 หากวันไหนที่คุณต้องการเดินทางไกลหรืออยากให้ร่างกายของคุณมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แค่คุณดื่มกาแฟโรบัสต้าชงดื่มเองคุณก็สามารถพร้อมลุยได้ทุกเส้นทาง รวมไปถึงการนำเอาไปผสมกับกาแฟสายพันธุ์อื่น ๆ ที่เรียกว่า “Blend Coffee’ นั่นเองค่ะ โดยโรบัสต้าออกจะดูแลง่าย ปลูกง่าย ชอบอากาศร้อนชื้นในดซนภาคใต้ของบ้านเรา มีความแข็งแรง ทนทานต่อโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แถมยังให้ผลผลิตที่สูง และมีการดูแลรักษาที่ไม่ยากด้วยนะคะ
เอ็กเซลซ่า (Excelsa)
ถึงแม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกของเมล็นั้น พร้อมทั้งมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับโรบัสต้าเลยก็ว่ได้ และ อ็กเซลซ่า ในทางกลับกันไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเหมือนกับกาแฟโรบัสต้า แต่ถ้าคุณลองถามชาวแอฟริกัน และ บ้านเกิดของกาแฟ “เพราะการค้นพบในครั้งแรกในเยเมน และ เอธิโอเปีย ส่วน เอ็กเซลซ่า ก็จะเป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี 1904 พวกเขารักรสชาติเข้มข้นและความขมพร่าของเอ็กเซล่าอย่างมากถึงขนาดที่ดื่มกาแฟสายพันธุ์นี้แล้วยังปลูกได้ง่ายมาก ๆ ทนแล้ง ดูแลงาย และยังสามารถทนโรคได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งให้ผลผลิตสูง ส่วนเมล็ดแก่ของเอ็กเซลซ่านั้นยังให้รสชาติที่กลมกล่อมและหอมซึ่งก็จะคล้าย ๆ กับกาแฟสายพันธุ์ อาราบิก้านั้นเอง
ลิเบอริก้า (Liberica)
บ้านเกิดของ “ลิเบอร์ริก้า” นั้นจะอยู่ที่ไลบีเรียและไอวอรีโคสต์ ส่วนในเรื่องของรสชาติก็จะใกล้เคียงกับกาแฟ อาราบิก้าที่มีรสชาติเปรี้ยว หอมหวานของผลเบอร์รี่มากกว่า แต่มันจะมีความทนทานต่อโรคได้ดีกว่า สายพันธุ์จะชอบอากาศที่ร้อนขึ้นและมีน้ำชุ่ม ๆ และนอกจากนี้ชาวไอวอรีโคสต์และมาดากัสก้ายังนิยมนำไปพัฒนาเพื่อเป็นสายพันธุ์กับกาแฟสายพันธุ์อื่น ๆ ส่วนบาริสต้าเองก็มักจะนิยมนำไป เบเลนด์เข้ากับกาแฟอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและเสริมรสชาติให้มีเอกลักษณ์ที่มากขึ้น ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพที่ต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่ลิเบอริก้านั้นก็กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย นอกจากกาแฟ 4 สายพันธุ์นี้แล้วที่เราได้นำมาเล่าคุณได้รู้จักกัน ในปัจจุบันก็ยังมีกาแฟสายพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งได้รับการพัฒนาในสายพันธุ์ให้มีความหลากลหลายมากขึ้น ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณนั้นจะชื่นชอบกาแฟแบบไหนนั่นเองค่ะ