หลักความเป็นจริงแล้วจะไม่ใช่วัตถุประสงค์อะไรมากมายให้คุณได้เห็นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น กาแฟที่ชงแล้วหนึ่งถ้วยนั้นจะเป็นแค่ของเหลวสำดำแบบธรรมดา และนั่นก็คือ สิ่งที่ดวงตาของคุณนั้นจะบ่งบอกคุณ แต่กาแฟหนึ่งถ้วยของคุณนั้นจะบอกคุณ แต่กาแฟในหนึ่งถ้วยนั้นจะมีความซับซ้อนมากกว่าจะเป็นยังไงไปดูกันเลยค่ะ
นักวิทยาศาสตร์จะกล่าวสานที่มีประกอบมากกว่า 1,000 ชนิดในกาแฟ 1 ถ้วย และสิ่งที่โดดเด่น อย่างไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งนั้นก็คือ คาเฟอีน ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้กาแฟของคุณนั้นมีรสชาติที่โดดเด่ร ซึ่งคาเฟอีนยังมีส่วนร่วมในการทำให้เพิ่มพลังงานอย่างมากที่สุดที่ผู้ดื่มกาแฟนั้นจะรู้สึกได้ทันทีหลังจากดื่มกาแฟดี ๆ สักหนึ่งแก้ว และ ข้อเสียของมันก็คือทำให้คนบางคนรู้สึกถึงความหงุดหงิดและมีความกระวนกระวายใจ และนั่นก็คือเหตุผลที่คนกลุ่มนี้ชื่นชอบกาแฟสดนั่นเองค่ะ และเมล็ดสดนั้นเป็นกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนที่สูง แถมยังคงรสชาติที่โดดเด่นของกาแฟ แต่ไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะเหมือนกาแฟแท้ทั่วไป เพราะคาเฟอีนจะมีหน้าที่ในการสร้างรสชาติกาแฟที่ขมและค่อนข้างเป็นกรดร่วมด้วย
ดังนั้น อย่าเชื่อคนที่บอกว่าพวกเขาขาย เมล็ดกาแฟสด ที่มีรสชาติเหมือนกาแฟแท้ทุกประการแต่ในความเป็นจริงแล้วนั่นก็คือ เมล็ดกาแฟแต่ละเมล็ดนั้น จะมีรสชาติที่อ่อนกว่ากาแฟที่มีคาเฟอีนแบบ 100% แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าคุณนั้นจะไม่สามารถ ได้รับความเพลิดเพลินกับกาแฟได้ เพราะเมล็ดกาแฟลงทั่วไปนั้นคุณจะต้องเตรียมการชงแบบตามความชอบที่คุณต้องการ จากการเลือกเมล็ดกาแฟสดที่คุณเลือกนั่นเองค่ะ และนั่นก็เป็นวิธีเดียวที่คุณจะได้รับความเพลิดเพลินแบบซาบซึ้งกับรสชาติของกาแฟยอดนิยมโดยไม่มีคาเฟอีนที่สูงสุด
เมล็ดกาแฟแต่ละเมล็ดจะไม่เหมือนกันทั้งหมด
เมล็ดกาแฟแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกันทั้งหมด เพื่อให้ได้กาแฟที่ดีสมบูรณ์แบบคุณต้องมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับ เมล็ดกาแฟแบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งซึ่งวิธีการผลิต วิธีการทั้งทางอ้อมและทางตรงนั้นจะมีกระบวนการการขจัดคาเฟอีนที่คุณสามารถพบเห็นได้บ่อยที่สุด ซึ่งในวิธีการโดยตรงนั้นเมล็ดถั่วจะถูกนึ่งเป็นเวลานานกว่าถึง 30 นาที เพื่อขจัดคราบข้าวเหนียว และ เป็นการเปิดรูขุมขนของเมล็ดถั่วนั้นเองค่ะ และหลังจากนั้นเมล็ดถั่วจะถูกชำระล้างด้วยตัวการทำลายโดยทั่วไปนั่นก็คือ ethyl acetate หรือ dichloromethane
โดยใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมง และตัวทำลายจะมีการแทรกซึมเข้าไปในเมล็ดถั่วและทำการสร้างพันธะกับโมเลกุลของคาเฟอีน เพื่อให้แน่ใจว่าคาเฟอีนนั้นจะถูกกำจัดออกจากถั่วที่มีการแช่ตัวทำลายที่ถูกนึ่งต่อไปอีก 10 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการทางอ้อมนี้ จะมีความแตกต่างกันนั่นก็คือ เมล็ดถั่วจะถูกแช่ในน้ำร้อนแทนการนึ่งง และตัวที่ถูกทำลายจะถูกนำไปใช้ในส่วนผสมของน้ำถั่วเพื่อเป็นการกำจัดคาเฟอีนออกจากน้ำ
ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีที่ธรรมชาติมากกว่าในการกำจัดคาเฟอีน นั้นก็คือ กระบวนการทำน้ำของสวิสนั้นเองค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ถั่วที่ยังไม่ผ่านการคั่วใส่ลงไปในหม้อใบใหญ่ที่มีน้ำเดือดจัด ๆ ถั่วจะปล่อยคาเฟอีนและของแข็งของกาแฟลงในน้ำ และถั่วจะถูกนำออกจากหม้อและน้ำจะถูกกรองเพื่อเอาคาเฟอีนออกจากเมล็ด และหลังจากนั้นนำเมล็ดถั่วไปแช่น้ำอีกครั้ง ไม่มีการสูญเสียของแข็งของกาแฟในกระบวนการนี้อย่างแน่นอน แต่ถั่สก็ยังคงรสชาตอและมีกลิ่นที่ธรรมชาติเหมือนเดิม วิธี CO2 นี้จะเป็นกระบวนการที่เป็นการกำจัดคาเฟอีนที่มีแนวโนเมใหม่ ๆ โดยที่ถั่วสัมผัสกับรูปแบบ CO2มีการบีบอัดกัน หลังจากนั้นคาเฟอีนจะมีการรวมตัวกับ CO2 และถูกกำจัดออกโดยการกรองด้วยถ่าน เนื่องจากเมล็ดไม่ได้ถูกแช่ในสารละลาย 0งทำให้ของแข็งของกาแฟและน้ำมันของมันนั้นระเหยไว้ จึงทำให้เมล็ดกาแฟสดของเรานั้นยังคงความเสน่ห์ตามธรรมชาติไว้ได้นั้นเองค่ะ